ตลาด
การซื้อขาย
ศูนย์ความรู้ (Academy) | Binance TH

Initia (INIT) คืออะไร?

2025-04-25

Initia คือโปรเจกต์บล็อกเชนที่รวมเอา Layer 1 และเครือข่ายของ Layer 2 Rollups ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระเข้าด้วยกัน เป้าหมายหลักคือช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างบล็อกเชนและแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น โดยลดขั้นตอนทางเทคนิคที่ซับซ้อน ด้วยเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานสำเร็จรูปจาก Initia ทำให้สามารถสร้างระบบนิเวศ Multichain ที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และเชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น

Initia ช่วยอะไร?

ปกติแล้วการสร้างแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนมักมีความยุ่งยาก เพราะนักพัฒนาต้องตัดสินใจทุกเรื่องเอง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บข้อมูล, การสื่อสารระหว่างบล็อกเชน หรือการใช้งาน Oracle แต่ Initia ได้จัดเตรียมการตัดสินใจในด้านโครงสร้างพื้นฐานบางส่วนไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสที่การสร้างแอปพลิเคชันได้อย่างเต็มที่

สิ่งนี้เรียกว่าการออกแบบในรูปแบบ Interwoven Stack ซึ่งเป็นเครื่องมือและระบบที่ช่วยให้การสร้างและจัดการ Rollups (บล็อกเชนย่อย) ทำได้ง่ายกว่าเดิม

Initia ทำงานอย่างไร?

Initia ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ:

1. Initia L1 (Layer 1 Blockchain)

Initia L1 สร้างด้วย Cosmos SDK ทำหน้าที่เป็นฐานหลักสำหรับ:

  • การรักษาความปลอดภัย (Security): Rollups ต่างๆ สามารถใช้งานคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่น การโอนย้ายโทเคน, การยืนยันข้อมูล และป้องกันการโจมตี

  • สภาพคล่อง (Liquidity): มี DEX ชื่อ InitiaDEX ในตัว ช่วยให้ผู้ใช้และ Rollups แลกเปลี่ยนโทเคนกันได้สะดวก

  • การสื่อสารข้ามเครือข่าย (Communication): ช่วยให้ Rollups สามารถสื่อสารและเชื่อมต่อกัน รวมถึงเชื่อมต่อกับระบบนิเวศบล็อกเชนอื่นๆ

  • ระบบแรงจูงใจ (Incentives): มีโปรแกรมให้รางวัล เช่น VIP (Vested Interest Program) และ Enshrined Liquidity เพื่อจูงใจผู้ใช้งาน

2. Interwoven Rollups

Rollups เปรียบเสมือนบล็อกเชนขนาดเล็กที่สร้างขึ้นบน Initia L1 โดยมีจุดเด่นคือการปรับแต่งได้หลากหลาย นักพัฒนาสามารถเลือก:

  • Virtual Machine ที่ใช้งาน (EVM, MoveVM หรือ WasmVM)

  • ระบบค่าธรรมเนียม (Gas Fees) อาจใช้เหรียญ INIT, เหรียญ Stablecoin หรือเหรียญที่สร้างขึ้นเอง

  • วิธีการจัดเรียงธุรกรรมให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะด้าน

ด้วยเหตุนี้ นักพัฒนาจึงสามารถสร้างบล็อกเชน Layer 2 ในแบบของตัวเองได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

3. Interwoven Stack

Interwoven Stack คือเครื่องมือสำเร็จรูปที่ช่วยในการสร้างและจัดการ Rollups โดยประกอบด้วย:

  • SDKs ที่ช่วยสร้าง Rollups และเชื่อมต่อกับ Initia L1

  • ระบบในตัวสำหรับการ Bridge, การส่งข้อความ, การกำกับดูแล และการจัดการสภาพคล่อง

  • มาตรฐานและ Template ต่างๆ ที่ช่วยให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

InitiaDEX (Decentralized Exchange)

InitiaDEX คือกระดานเทรดแบบ Decentralized Exchange ที่อยู่ในตัว Initia L1 โดยรองรับ:

  • Weighted Pools: สำหรับเทรดสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน (คล้ายกับ Balancer)

  • StableSwap Pools: สำหรับเทรดสินทรัพย์ที่มีมูลค่าใกล้เคียงกัน เช่น Stablecoins

InitiaDEX ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสภาพคล่องของระบบนิเวศ และรองรับการทำธุรกรรมข้าม Rollups ได้สะดวก รวมทั้งยังมีระบบ Enshrined Liquidity สำหรับ Pools ที่ได้รับอนุมัติจากการกำกับดูแล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและผลตอบแทนในระบบ

การให้รางวัลในระบบนิเวศของ Initia

Initia มีโปรแกรมรางวัลที่เรียกว่า VIP (Vested Interest Program) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้งานและนักพัฒนา โดยมอบเหรียญ INIT ตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น:

  • มูลค่าสินทรัพย์ที่ล็อกไว้ใน Rollups (TVL)

  • กิจกรรมบนเครือข่าย เช่น จำนวนธุรกรรม

  • การมีส่วนร่วมในระบบกำกับดูแล (Governance)

เหรียญ INIT คืออะไร?

INIT เป็นโทเคนหลักของระบบนิเวศ Initia มีอุปทานทั้งหมด 1 พันล้านเหรียญ โดยมีประโยชน์หลักๆ ดังนี้:

  • ใช้ชำระค่าธรรมเนียมธุรกรรม (Gas Fees) ใน L1 และ Rollups ต่างๆ

  • ใช้ในการ Stake เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย

  • ใช้เป็นโทเคนกำกับดูแล (Governance) เพื่อให้ผู้ถือเหรียญมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

  • ใช้ในการแจกจ่ายรางวัลต่างๆ ในระบบ เช่น โปรแกรม VIP

Tokenomics

Enshrined Liquidity & Staking 25% (250,000,000)

Vested Interest Program (VIP) Rewards 25% (250,000,000)

Protocol Sales 15.25% (152,500,000)

Protocol Developers 15% (150,000,000)

Foundation 7.75% (77,500,000)

Binance Launch Campaign 6% (60,000,000)

Airdrop 5% (50,000,000)

Echo.xyz Sales 15.25% (152,500,000)

สรุป

Initia นำเสนอวิธีการใหม่ในการสร้างแอปพลิเคชันบนบล็อกเชน โดยผสมผสาน Layer 1 เข้ากับ Rollups ที่ปรับแต่งได้ และเครื่องมือพร้อมใช้งานสำหรับนักพัฒนา Initia มุ่งหวังที่จะลดอุปสรรคในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Web3 และช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายบล็อกเชนง่ายขึ้นกว่าเดิม