คู่มือการสร้าง Portfolio สำหรับมือใหม่

2024-08-14

คู่มือการสร้าง Portfolio สำหรับมือใหม่

ก้าวแรกในการเข้าสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัลนั้นทำได้ง่าย เพียงแค่เราก็ซื้อ Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) หรือคริปโตอื่นๆ ที่เราชอบ บางคนอาจจะชอบพวกเหรียญใหม่ๆ บางคนอาจชอบที่จะไปตะลุยกับบรรดา Altcoins หรือ Meme coins 

แล้วเราจะดูได้ยังไงว่าแบบไหนดีที่สุด? เราจะประสบความสำเร็จได้ดีที่สุด ด้วยการพิจารณา กระจายการลงทุนอย่างรอบคอบ และหมั่นสร้างสมดุลให้กับพอร์ตคริปโตของเรา ซึ่งมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด วันนี้มาดูกันเลย

Portfolio คืออะไร?

โดยพื้นฐานแล้ว พอร์ตโฟลิโอของคริปโต คือการแบ่งประเภทของสกุลเงินดิจิทัลที่เราลงทุน ซึ่งอาจจะประกอบด้วยเหรียญต่างๆ เช่น BTC, ETH หรือ altcoins และรวมไปถึงบรรดา NFT ด้วย ซึ่งมันแทบไม่ต่างอะไรกับพอร์ตการลงทุนในหุ้นเลย ยกเว้นว่าพอร์ตคริปโตคือการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือสกุลเงินดิจิทัล เราสามารถติดตามพอร์ตคริปโตของเราได้ง่ายๆ อย่างเช่น จดเอาไว้ใน Google Sheets หรือสามารถใช้เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อคำนวณมูลค่าสินทรัพย์ และผลกำไรของเรา

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดสรรสินทรัพย์และการกระจายความเสี่ยง

ในการจัดพอร์ตการลงทุน เราต้องทำความคุ้นเคยกับแนวคิดที่สำคัญสองข้อคือ การจัดสรรสินทรัพย์ และ การกระจายความเสี่ยง การจัดสรรสินทรัพย์คือการกระจายการลงทุนของเราไปยังสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่น เงินสด คริปโต หุ้น หรือพันธบัตร ส่วนการกระจายความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการกระจายเงินลงทุนของเราไปยังสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน เพื่อกระจายความเสี่ยง (อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว)

แม้ว่าคริปโตทั้งหมดจะเป็นสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน แต่เราก็ยังสามารถกระจายการลงทุนในพอร์ตคริปโตของเราได้ ด้วยการใส่เงินลงไปในคริปโตประเภทที่แตกต่างกัน เพราะคริปโตแต่ละสกุล ต่างก็มีเป้าหมายและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป

โฟกัสกับการเลือกคริปโตที่ดี

ในการจัดพอร์ตการลงทุนนั้น เราควรทำการศึกษาว่า คริปโตแต่ละตัวทำอะไรได้ อนาคตของเหรียญนั้นๆเป็นอย่างไร เทคโนโลยีที่ทำออกมาจะสามารถทำประโยชน์ได้จริงๆหรือไม่ หากเราศึกษาลงไปลึกๆ เราจะพอประเมินได้ว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือเหรียญนั้นๆ ควรจะเป็นเท่าใด 

แน่นอนเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคริปโตนั้นมีจำนวนมาก และหลายๆตัวที่เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อาจจะมีมูลค่าลงไปเหลือ 0 ฉนั้นการเลือก “คริปโตที่ดี” มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หากโปรเจคนี้มีผู้สนับสนุนที่น่าเชื่อถือ มีการใช้งานที่เกิดประโยชน์จริงๆ อนาคตมีเส้นทางชัดเจน และมีทีมงานที่ขยันขันแข็ง โปรเจคคริปโตนี้ก็จะสำเร็จ และมูลค่าก็อาจเพิ่มขึ้นได้อย่างมหาศาล อ่านมาแล้วก็คงรู้สึกว่า สิ่งนี้คล้ายกับการประเมินหุ้นหรือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เลยนั้นเอง แต่เปลี่ยนมาเป็นโลกดิจิตอลและโปรดัคที่อยู่ในอินเตอร์เน็ตแทน



คริปโตประเภทต่างๆ 

มีสกุลเงินดิจิทัลมากมายที่เราสามารถรวมเอาไว้ในพอร์ต มาดูตัวอย่างกันว่ามีอะไรบ้าง

Currency: Bitcoin, Bitcoin Cash (BCH) และ Litecoin (LTC) เหรียญพวกนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการชำระเงินเป็นหลัก

Stablecoins: USDT, USDC. DAI, BUSD หรือ TUSD เหรียญพวกนี้มีมูลค่าตรึงไว้กับค่าเงินหรือสินทรัพย์อ้างอิง เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีมูลค่ามั่นคง ท่ามกลางตลาดคริปโตที่ผันผวนสุดๆ (แต่ก็มี Depeg กันไปบ้างในบางช่วง)



Smart Contract Platform: Ethereum (ETH), Solana (SOL) หรือ Binance Coin (BNB) ใช้เพื่อการชำระค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย 

Governance Tokens: Arbitrum (ARB) หรือ Optimism (OP) การถือครองโทเค็นพวกนี้ ให้สิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเพื่อกำหนดทิศทางของเครือข่ายหรือของ dApps ต่างๆ 



https://www.forbes.com/advisor/au/investing/cryptocurrency/different-types-of-cryptocurrencies-explained/

Crypto Coins vs. Crypto Tokens

Sorce ส่วนมาก ไม่มีใครรู้จริง investopedia ก็ยังมั่ว เพราะวงการนี้ใหม่มาก มีการเปลี่ยน Term & understanding ทุก”อาทิตย์” ฉนั้น อาจจะหา Source ลำบากนิดๆ เพราะ ประเภท หรือ วิธีการ

คนมันก็แบ่งกันเองทั้งนั้น ไม่มีใครเป็นคนกลางมาแบ่งประเภท



Meme Coin : …

Gaming Coins : …..

ยกตัวอย่างการจัด PortFolio (เป็นเพียงตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพเท่านั้น)

หากเราประเมินความเสี่ยงได้ว่าเป็นคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เราอาจจะต้องศึกษาหาสกุลเงินดิจิตอลที่มีความผันผวนต่ำ

จาก 100% เราอาจจะแบ่งเป็น

-Stablecoin 50%

-Bitcoin 40%

-Etheruem 3%
-Solana 2%
-อื่นๆ 5%

การจัดพอร์ตแบบนี้ นอกจากจะรักษาระดับเงินให้ผันผวนต่ำได้แล้ว (ต่ำที่ว่าคือ Max drawdown 40% จากยอดลงมาหลุม) ก็ยังมี Stablecoin หรือเงินสด ที่ทำให้เราสามารถใช้เป็นทุนสำรอง เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือมีโอกาศทองมาตรงหน้าก็เป็นได้



ข้อควรรู้ก่อนสร้างพอร์ตโฟลิโอของตัวเอง

  • กระจายพอร์ตการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงแตกต่างกัน ทั้งเสี่ยงสูง เสี่ยงปานกลาง และเสี่ยงต่ำ ตามแต่ที่เราจะยอมรับได้ (ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน)

  • แน่นอนว่า ความเสี่ยงต่ำที่สุดก็คือ Stablecoins ในแต่ละช่วงเราควรถือ Stablecoins  หรือเงินสดไว้บ้าง เพื่อให้เรามีสภาพคล่อง และมีความพร้อมเมื่อโอกาสมาถึง

  • ปรับสมดุลของพอร์ตโฟลิโออย่างสม่ำเสมอตามสภาวะตลาด เพราะคริปโตมีความผันผวนสูง

  • จัดสรรเงินทุนใหม่อย่างมีกลยุทธ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระจุกตัวที่มากเกินไปในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง

  • ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะทำการลงทุน

  • ลงทุนเท่าที่เราจะเสียได้ การจัดพอร์ตโฟลิโอไม่ควรทำให้เกิดความเครียดต่อตัวเราเองมากเกินไป

Portfolio Tracker

ตัวติดตามพอร์ตโฟลิโอ ช่วยให้เราสามารถติดตามความเคลื่อนไหว และความคืบหน้าในการลงทุนของเรา ตัวอย่าง Portfolio Tracker ที่ไปใช้ได้แบบฟรี

CoinMarketCap : CMC Portfolio Tracker ช่วยให้เราสามารถระบุสินทรัพย์ที่เราถือครองอยู่ และยังมีตัวเลือกในการเพิ่มราคาที่เข้าซื้อ เพื่อติดตามผลกำไรอย่างแม่นยำ

CoinGecko : นอกจากจะเป็นที่รู้จักในด้านการติดตามราคาที่แม่นยำ ยังให้บริการ Portfolio Tracker แบบฟรีๆ อีกด้วย

โดยปกติแล้ว สภาวะตลาดคริปโต มักจะขึ้นอยู่กับราคาของ Bitcoin การมีพอร์ตการลงทุนที่สมดุลและหลากหลายสามารถลดการสูญเสียบางส่วนที่อาจจะเจอตอนตลาดผันผวนได้ การสร้างพอร์ตคริปโตที่สมดุลมีอะไรมากกว่าแค่การถือเหรียญหลายเหรียญ และแนวทางการลงทุนที่ดีจะช่วยสร้างพอร์ตที่เหมาะกับตัวเราได้

คำเตือน : คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้