KernelDAO (KERNEL) คืออะไร?

2025-04-24

หนึ่งในเทรนด์สำคัญที่กำลังได้รับความนิยมในโลกคริปโตคือ Restaking หรือการนำสินทรัพย์ที่ถูก Stake ไว้ ไปใช้ประโยชน์ซ้ำในหลายๆ เครือข่ายหรือบริการพร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทุนและเพิ่มความปลอดภัยของระบบ

เมื่อบริการแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Services) เริ่มมีจำนวนมากขึ้น ก็ยิ่งมีความต้องการ Validators หรือผู้ตรวจสอบธุรกรรมที่มีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นตามไปด้วย KernelDAO จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ถือโทเคน, Validators และนักพัฒนาบริการแบบกระจายศูนย์ (AVS) สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะถือสินทรัพย์ในรูปแบบ Liquid Staking Tokens (LSTs) หรือเป็นผู้ดำเนินการ Node สำหรับตรวจสอบธุรกรรม KernelDAO จะช่วยให้สินทรัพย์ของคุณสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นได้

KernelDAO ทำงานอย่างไร?

KernelDAO เชื่อมต่อกลุ่มหลักสามกลุ่มเข้าด้วยกัน ได้แก่ ผู้ถือโทเคน (Users), Validators และบริการที่ต้องการ Validators หรือเรียกว่า Actively Validated Services (AVS)

  • Users: ผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทนจากการ Restake สินทรัพย์ LSTs ของตัวเอง

  • Validators: ผู้ตรวจสอบธุรกรรมที่ต้องการให้บริการกับหลายๆ เครือข่าย เพื่อเพิ่มรายได้

  • AVSs: บริการหรือแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้ Validators ที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อรักษาระบบให้ปลอดภัยและเสถียร

KernelDAO มีผลิตภัณฑ์หลักที่ช่วยให้ทุกกลุ่มทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ได้แก่ Kernel, Kelp และ Gain

ผลิตภัณฑ์หลักของ KernelDAO

1. Kernel – ศูนย์กลางของการ Restake

Kernel ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ใช้งานสามารถฝาก Liquid Staking Tokens เช่น stETH เข้ามาในระบบ โดย Kernel จะช่วยเลือก Validators ที่เชื่อถือได้และดูแลการกระจายสินทรัพย์ที่ Restake ไปยังหลายๆ บริการอัตโนมัติ

Kernel ช่วยปกป้องผู้ใช้งานจากความเสี่ยงที่ Validators อาจถูกลงโทษ (Slashing) จากการทำงานผิดพลาด รวมถึงเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มผลตอบแทนโดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องดูแลเองตลอดเวลา

2. Kelp – ตัวกลางจับคู่ Validators และบริการ AVS

Kelp เป็นระบบที่เชื่อมต่อ Validators กับบริการ AVS ต่างๆ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหรือบริการที่ต้องอาศัย Validators เพื่อทำงานต่างๆ เช่น การตรวจสอบข้อมูล หรือการดูแลธุรกรรม

ระบบ Kelp จะพิจารณาเลือก Validators โดยดูจากประวัติความน่าเชื่อถือ, ความเสถียร, ปริมาณสินทรัพย์ที่ถูก Stake และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ Validators มี เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบริการ AVS

AVS ยังสามารถกำหนดกฎเกณฑ์เพิ่มเติม เช่น รูปแบบการจ่ายค่าตอบแทน หรือการกำหนดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่ง Kelp จะทำหน้าที่ในการบังคับใช้กฎเหล่านี้โดยอัตโนมัติ

3. Gain – ศูนย์จัดการผลตอบแทนจาก Restaking

Gain เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตาม ตรวจสอบ และจัดการผลตอบแทนที่ได้รับจากการ Restake สินทรัพย์ของตัวเองได้อย่างง่ายดายจากที่เดียว

Gain ช่วยประมาณการผลตอบแทนในอนาคต, ช่วยเคลมรางวัลที่ได้รับจากบริการต่างๆ และช่วยนำผลตอบแทนกลับไปลงทุนใหม่ (Reinvest) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนได้ในระยะยาว

เหรียญ KERNEL คืออะไร?

KERNEL เป็นโทเคนหลักของระบบนิเวศ KernelDAO ซึ่งมีอุปทานรวมทั้งหมด 1,000 ล้านเหรียญ โดยมีบทบาทสำคัญดังนี้

  • Governance: ผู้ถือเหรียญ KERNEL สามารถเข้าร่วมลงคะแนนตัดสินใจในการพัฒนาระบบ เช่น เลือก Validators หรือกำหนดกลยุทธ์ Restaking

  • Incentives: KERNEL ถูกใช้เป็นรางวัลให้กับผู้ใช้งานและ Validators ที่เข้าร่วมในระบบ

  • Staking: การถือหรือ Stake เหรียญ KERNEL อาจเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น หรือได้รับสิทธิ์ในการลงคะแนนมากขึ้น

ความเสี่ยงที่ควรคำนึงถึง

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม DeFi อื่นๆ KernelDAO ก็มีความเสี่ยงบางประการที่ต้องคำนึงถึง เช่น

  • Slashing: หาก Validators ทำงานผิดพลาด อาจมีการถูกริบสินทรัพย์ที่ Stake ไว้

  • ความเสี่ยงจาก Smart Contract: ช่องโหว่ในโค้ดอาจนำไปสู่การสูญเสียสินทรัพย์ที่ฝากไว้

  • ความเสี่ยงทางการตลาด: ราคาของโทเคนและผลตอบแทนอาจผันผวนไปตามสภาวะตลาด

ผู้ใช้งานควรศึกษาทำความเข้าใจในตัวระบบให้ถี่ถ้วน และอาจเริ่มลงทุนจากจำนวนเงินเล็กน้อยก่อนเพื่อให้คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์

สรุป

KernelDAO เป็นโปรเจกต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อจัดระเบียบและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตลาด Restaking ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้ใช้งาน Validators และบริการต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การสร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่ถูก Stake ไว้กลายเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ถือโทเคนทั่วไป ผู้ตรวจสอบธุรกรรม หรือผู้พัฒนาบริการ Web3 KernelDAO มีเครื่องมือที่พร้อมช่วยคุณในการเพิ่มมูลค่าจากสินทรัพย์ของคุณ