Solayer (LAYER) คืออะไร?

Solayer เป็นโปรโตคอลเลเยอร์ที่สอง (Layer-2) ที่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่าย Solana โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับขนาด (scalability) และสภาพคล่อง (liquidity) ของเครือข่าย Solana ด้วยการใช้เทคโนโลยี liquid staking และ restaking ทำให้โทเค็นที่ถูก stake อยู่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่ยังคงช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่าย
ในยุคที่เทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารและการส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว จากการใช้การขนส่งด้วยม้าหรือการส่งข้อความผ่านโทรเลข เทคโนโลยี blockchain ก็ยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดในด้านความเร็วและความมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
Solayer (LAYER) จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์การเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย โดยนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ที่ทำให้โทเค็นที่ถูก stake อยู่สามารถใช้งานในแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (DApps) และตลาดสภาพคล่องได้อย่างเต็มที่
กลไกการทำงานของ Solayer
1. Layer-2 และ Restaking
Solayer ทำงานในฐานะ Layer-2 ซึ่งเป็นตัวช่วยเสริมให้กับเครือข่ายหลัก โดยรับภาระงานบางส่วนออกจากเครือข่ายหลัก ทำให้ระบบหลักมีความเบาขึ้นและสามารถประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น
ในระบบนี้ โทเค็น SOL ที่ถูก stake จะถูกนำไป “restake” ในหลายๆ โอกาสเพื่อให้ได้รับรางวัลในขณะที่ยังคงสามารถใช้งานในแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้
2. Restaking Pool Manager
เป็นหัวใจหลักของระบบ ทำหน้าที่เป็น smart contract ที่รับและจัดการโทเค็น SOL จากผู้ stake โดยมีหน้าที่ดังนี้
รับ SOL จากผู้ใช้งาน
สร้างและแจกจ่ายโทเค็น sSOL (Liquid Staking Token)
กระจาย SOL ไปยังช่องทางการ staking ต่างๆ ทั้งในเครือข่ายหลักและแอปพลิเคชันอื่นๆ
รวบรวมและแจกจ่ายรางวัลให้กับผู้ถือ sSOL
3. Liquid Staking Tokens (sSOL)
sSOL เป็นตัวแทนโทเค็นที่ stake อยู่ในรูปแบบที่สามารถใช้งานได้ในตลาดสภาพคล่อง
หมายความว่าผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรอการปลดล็อกของ SOL เพื่อนำไปใช้งานในแอปพลิเคชันอื่น เพราะ sSOL สามารถนำไปใช้ในกระบวนการต่างๆ ภายในระบบได้ ในขณะเดียวกันก็ยังได้รับรางวัลจากการ stake อยู่
4. Delegation Manager
ส่วนนี้จะช่วยจัดการการกระจาย SOL ที่ stake ไปยัง validator ต่างๆ โดยมีหน้าที่กำหนดว่าจะมอบหมาย SOL ไปให้ validator ไหนเพื่อให้เกิดความมั่นคงและประสิทธิภาพในการ staking
5. Reward Accounting Unit
ทำหน้าที่เป็น “นักบัญชี” ที่ติดตามและคำนวณรางวัลที่เกิดจากการ stake
ไม่ทำหน้าที่รับหรือกระจายรางวัลโดยตรง แต่จะคำนวณสัดส่วนของรางวัลที่ควรได้รับโดยอิงจากจำนวน sSOL ที่ผู้ใช้งานถืออยู่
6. Oracle Price Feed
ใช้บริการ oracle เพื่อให้ข้อมูลราคาที่เป็นปัจจุบันของ SOL ซึ่งช่วยรักษาสัดส่วนระหว่าง sSOL และ SOL ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยที่ sSOL ควรมีมูลค่าเทียบเท่ากับ SOL บวกกับรางวัลที่ได้รับ
Solayer Tokenomics
ระบบของ Solayer ใช้โมเดลโทเค็นหลายตัว ซึ่งแต่ละตัวมีบทบาทที่แตกต่างกันดังนี้:
SOL: โทเค็นพื้นฐานของเครือข่าย Solana ใช้สำหรับ staking และเป็นสกุลเงินหลักในระบบ
LAYER: โทเค็นยูทิลิตี้หลักของ Solayer ใช้ในการ staking, การกำกับดูแล และเป็นแรงจูงใจให้กับผู้มีส่วนร่วมในเครือข่าย
sSOL: โทเค็น liquid staking ที่เป็นตัวแทนของ SOL ที่ถูก stake ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานในระบบได้ในขณะที่ยังได้รับรางวัล
AVS Tokens: โทเค็นพิเศษที่สร้างโดยแอปพลิเคชันบน Solayer เพื่อให้เข้าถึงโอกาสในการรับผลตอบแทนจาก yield และ MEV (Maximum Extractable Value)
sUSD: สเตเบิลคอยน์ที่มีการผูกกับดอลลาร์สหรัฐ ใช้สำหรับการทำธุรกรรม, staking และการให้สภาพคล่องภายในระบบ
สรุป
Solayer (LAYER) เป็นโปรโตคอล Layer-2 บนเครือข่าย Solana ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาดของระบบ โดยใช้เทคโนโลยี liquid staking และ restaking ซึ่งช่วยให้โทเค็น SOL ที่ถูก stake อยู่สามารถใช้งานในแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้พร้อมกับรับรางวัล ระบบประกอบด้วยส่วนสำคัญ เช่น Restaking Pool Manager ที่ทำหน้าที่รับและแจกจ่าย sSOL (โทเค็นแทน SOL ที่ถูก stake) และ Delegation Manager ที่จัดสรร SOL ไปยัง validator ต่าง ๆ รวมถึง Reward Accounting Unit ที่คำนวณและแจกจ่ายรางวัลอย่างถูกต้องโดยอิงจากข้อมูลราคาที่ได้รับจาก oracle นอกจากนี้ โมเดลโทเค็นของ Solayer ยังประกอบด้วย SOL, LAYER, sSOL, AVS และ sUSD ซึ่งแต่ละโทเค็นมีบทบาทในการให้สภาพคล่อง การกำกับดูแล และการเข้าถึงโอกาสทาง DeFi อีกทั้งการกระจายโทเค็น LAYER ผ่านโปรแกรม Binance HODLer Airdrop ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายการเข้าถึงของโปรเจกต์ในตลาด DeFi ในยุคปัจจุบัน