Fetch.AI (FET) คืออะไร? แพลตฟอร์มบริการ AI อัจฉริยะ

2024-06-12

Fetch.AI (FET) คืออะไร? แพลตฟอร์มบริการ AI อัจฉริยะ

บทความนี้เป็นการสรุปจากบทความอ้างอิงเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของคุณเท่านั้น 

คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ / ผลการดำเนินการในอดีตไม่ได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในเหรียญนี้

Fetch.AI (FET) 

Fetch.AI เป็นแล็บปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) แบบเปิด permissionless และ decentralized ด้วยเศรษฐกิจคริปโต ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้ด้วยเครือข่ายแบบ permissionless ที่สามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงชุดข้อมูลที่ปลอดภัยได้ด้วยการใช้ AI อัตโนมัติเพื่อทำงานต่างๆ โดยใช้เครือข่ายข้อมูลทั่วโลก

Fetch.AI ตั้งเป้าที่จะให้บริการเครื่องมือสำหรับ developer เพื่อใช้งานและสร้างรายได้ด้วยการจัดหา machine-to-machine ecosystem อัตโนมัติ โมเดลของ Fetch.AI มีรากฐานมาจาก use case ที่อาศัยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพบริการเทรดแบบ decentralized เครือข่ายการขนส่ง และการท่องเที่ยว

Feature

Feature หลักๆ ของ Fetch.AI ได้แก่

  1. AI Agents

AI Agents เป็น modular building block ที่สามารถตั้งโปรแกรมได้ด้วยลอจิกต่างๆ ให้ทำงานที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มีเดิมสามารถใช้งาน AI หรือสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ด้วยการรวม AI Agents หลายตัวเข้าด้วยกัน ทั้งหมดนี้สามารถทำได้แบบ no-code ผ่าน Agentverse ของ Fetch.AI

  1. AI Engine

ใช้ประโยชน์จากแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ทำให้ผู้ใช้และ developer สามารถเชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ที่ใช้ AI Agents ได้

  1. Agent IoT Gateway

หรือรู้จักกันในชื่อ Mailroom Service มีขึ้นเพื่อไม่ให้ AI Agents ต้องออนไลน์ตลอดเวลา และสามารถดำเนินการแยกกันได้อย่างอิสระ

  1. Fetch Wallet

เป็นกระเป๋าที่ใช้ติดต่อกับเครือข่าย Fetch และ ledger อื่นๆ สร้างโดยใช้ Cosmos-SDK และรองรับโปรโตคอล Inter-Blockchain Communication (IBC) forked มาจาก Keplr wallet

Ecosystem

สำหรับแผนงานในอนาคตนั้น  SingularityNET Fetch.ai และ Ocean Protocol ได้ประกาศแผนที่จะรวม token ของตัวเองเข้าด้วยกันเพื่อสร้าง Artificial Superintelligence Alliance ในเดือนมีนาคม 2024 และจะรวม token ของทั้ง 3 เข้าด้วยกันเป็น token ใหม่อย่าง Artificial Superintelligence (ASI) ซึ่งการโหวตก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยโดย community มีมติเห็นชอบ โดยแม้จะรวมกันเป็น Artificial Superintelligence Alliance แต่ทั้ง 3 จะยังคงเป็นอิสระต่อกันตามเดิม 

ข้อตกลงนี้มีเป้าหมายที่จะสร้างหน่วยงานโอเพ่นซอร์สอิสระที่ใหญ่ที่สุดในด้านการวิจัยและพัฒนา AI ส่วน token ของทั้ง 3 จะเปลี่ยนเป็น ASI ในอัตราส่วนดังนี้

FET > ASI ในอัตราส่วน 1:1

AGIX > ASI ในอัตราส่วน 0.433350:1

OCEAN > ASI ในอัตราส่วน 0.433226:1

ผู้ก่อตั้งและการระดมทุน

Fetch.ai ก่อตั้งโดย Toby Simpson Humayun Sheikh และ Thomas Hain ซึ่งในปี 2017  Humayun Sheikh ได้รับตำแหน่งซีอีโอของ Fetch.ai และยังเป็นซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Mettalex รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้ง uVue กับ itzMe ส่วน Toby Simpson เป็นอดีตซีโอโอ และปัจจุบันเป็นสมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาของ Fetch.ai นอกจากนี้ ยังเคยเป็นซีทีโอของ Ososim Limited และหัวหน้าฝ่ายออกแบบซอฟต์แวร์ของ DeepMind ด้วย ขณะที่ Thomas Hain เป็นอดีตซีเอสโอ ส่วนก่อนหน้านั้นเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารของ Koemei

Fetch.ai เปิดขาย Private/Pre-sale ในปี 2018 ที่ราคา 0.0527 USDT ระดมทุนได้ 7.05 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากคิดกำไร ณ ราคา All-time High ก็จะอยู่ที่ 65.69x

จากนั้นได้ขาย IEO ผ่าน Binance Launchpad ในปี 2019 ที่ราคา 0.0867 USDT ระดมทุนได้ 6 ล้านดอลลาร์ และหากคิดกำไร ณ ราคา All-time High ก็จะอยู่ที่ 39.9x

อนึ่ง ผลการลงทุนในอดีตไม่ได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต นักลงทุนควรตระหนักถึงความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในเหรียญนี้

นอกจากนี้ ยังระดมทุนได้ 70 ล้านดอลลาร์ นำโดย Outlier Ventures กับ GDA Capital พร้อมด้วยบริษัทชื่อดังอย่าง Bitget DWF Labs และ Spark Digital Capital

Fetch.AI มีการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ทั้งกับบริษัทในและนอกคริปโต เช่น

  1. Bosch 

Bosch กับ Fetch.AI ร่วมมือกันสร้าง Fetch.ai Foundation โดยมีเป้าหมายเพื่อวิจัย พัฒนา และควบคุม Web3 สำหรับ use case ในโลกจริง ทั้งในด้านความคล่องตัว อุตสาหกรรม และผู้บริโภค

  1. ZoidPay

ZoidPay ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสภาพคล่องคริปโต ขยายบริการให้กับผู้ถือ FET โดยให้วงเงินการซื้อจำกัดเดือนละ 100,000 ยูโร

  1. Indacoin

Fetch.AI มีความร่วมมือกับ Indacoin ซึ่งเป็นบริษัท fiat-on-ramp ทำให้สมาชิก FET community ซื้อ FET ได้โดยใช้บัตรเครดิตและเดบิตในกว่า 180 ประเทศ

อิทธิพลบน Social

Fetch.AI มีผู้ติดตามบน 227.6K บน X (Twitter เดิม) และสมาชิก 15K ใน r/FetchAI_Community



Tokenomics

FET เป็น utility token และตัวกลางแลกเปลี่ยนของ Fetch.ai แต่เดิมสร้างมาเป็น ERC20 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น native token ของ Fetch.ai ในภายหลัง โดยสามารถใช้ชำระค่าบริการใน Fetch ecosystem และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของเครือข่าย รวมถึงสามารถเลือกที่จะ stake $FET เพื่อร่วมสร้างความปลอดภัยให้เครือข่ายผ่านกลไก Proof-of-Stake (PoS) และรับรางวัลตอบแทน

FET มี supply ทั้งหมด 2,630,547,141 FET โดยแบ่งดังนี้

Founders & Team: 20%

Foundation: 20%

Future Release: 17.4%

Mining Rewards: 15%

Private Sale: 11.6%

Advisors: 10%

Public Sale: 5.7%

Unsold: 0.3%

ปัจจุบันมี Circulating Supply 848,193,896 ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

Marketcap + ราคา

FET เคยสร้างผลตอบแทนอย่างมาก โดยในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2024 FET ราคาอยู่ที่ประมาณ 0.55 USDT แต่เพียง 1 เดือน ราคาก็พุ่งไปที่ 2.77 USDT ในวันที่ 11 มีนาคม 2024 สร้างผลกำไรกว่า 5x

ส่วน ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2024 FET ซื้อขายอยู่ที่ราคา 2.34 USDT มี Market cap 1.992 พันล้านดอลลาร์ และ FDV 2.708 พันล้านดอลลาร์ 

แหล่งที่มา:

https://bit.ly/4bJtQBb 

https://bit.ly/4dOroLG 

https://bit.ly/4bJl4mz 

https://bit.ly/4bKlppb 

https://bit.ly/3ylIzUm