Bitcoin Layer 2 คืออะไร? ช่วยแก้ปัญหาอะไร? มีไว้ทำไม?
Bitcoin Layer 2 คืออะไร? ช่วยแก้ปัญหาอะไร? มีไว้ทำไม?
เครือข่าย Bitcoin Layer 2 คืออะไร
สรุปสั้นๆ
เครือข่าย Bitcoin Layer 2 แก้ปัญหาด้านการ scale, เพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม และลดค่าธรรมเนียม โดยมีโปรโตคอลมากมาย เช่น Lightning Network, Rootstock, Stacks และ Liquid Network
Layer 2 มักจะใช้กลไก scale เช่น state channel, sidechain และ blockchain rollup
นอกจากการ scale แล้ว Layer 2 solution ยังเพิ่มความสามารถด้านการเขียนโปรแกรม, ส่งเสริมบริการ DeFi และบริการ Web3 อื่นๆ บน Bitcoin blockchain
แนะนำ
Bitcoin ผู้บุกเบิกคริปโทเคอร์เรนซี และเป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมที่สุด แต่แม้จะประสบความสำเร็จ Bitcoin ก็เผชิญปัญหาความนิยมในการใช้งาน โดยเฉพาะปัญหาด้านการ scale เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว community คริปโตจึงได้เสนอเครือข่าย Bitcoin Layer 2 ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถด้านการ scale, ลดค่าทำธุรกรรม และเพิ่มความเป็นไปได้ใหม่ๆ สำหรับ Bitcoin ecosystem
Bitcoin Layer 2 คืออะไร
Bitcoin Layer 2 เป็นโปรโตคอลที่สร้างบน Bitcoin blockchain มักจะถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพหรือข้อจำกัดต่างๆ ของเชนหลัก โดย Layer 2 นี้จะประมวลผลธุรกรรมนอกเชนหลัก ทำให้เพิ่มความสามารถในการ scale, program และขยายความสามารถในการรองรับแอปพลิเคชัน decentralized ต่างๆ ได้
ทำไมต้องเป็น Bitcoin Layer 2?
ในตอนแรก Bitcoin ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบชำระเงินที่ปลอดภัยและ decentralized แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการ scale เวลาเฉลี่ยในการสร้างบล็อกอยู่ที่ 10 นาที และสามารถทำธุรกรรมได้ 7 ครั้งต่อวินาที (TPS) ทำให้ขาดประสิทธิภาพในช่วงที่มีปริมาณการทำธุรกรรมสูง ทำให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นและมีความล่าช้า
นอกจากนี้ ภาษาสคริปต์ (scripting language) ของ Bitcoin blockchain ที่มีอย่างจำกัด ทำให้สามารถการสนับสนุน smart contract ที่ซับซ้อนและแอปพลิเคชันแบบ decentralized (DApp) ได้อย่างจำกัด จึงเกิดแนวคิดเกี่ยวกับเครือข่าย Bitcoin Layer 2 ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
Bitcoin Layer 2: ทำงานอย่างไร
Layer 2 solution ทำงานบนหลักการว่าด้วยการประมวลผลนอกเชน ซึ่งการทำธุรกรรมนอกเชนหลักนี้จะลดภาระของ Layer 1 การสร้างช่องทางนอกเครือข่ายทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมหลายรายการโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มแต่ละธุรกรรมเข้าไปบนบล็อกเชนโดยตรง การประมวลผลนอกเชนนี้ไม่เพียงเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรม แต่ยังลดค่าธรรมเนียมให้ต่ำลงด้วย ทำให้รูปแบบ microtransaction และการทำธุรกรรมแบบ point-of-sale ใช้งานจริงได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีกลไกหลายอย่างที่สนับสนุนการทำงานของเครือข่าย Bitcoin Layer 2 เช่น state channel, rollup และ sidechain
1. State channel
Layer 2 solution เช่น Lightning Network ใช้ state channel เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างช่องทางการเข้ารหัสแบบครบวงจรสำหรับรับส่งการชำระเงินได้ การทำธุรกรรมภายในช่องทางเหล่านี้จะเกิดขึ้นนอกเชน โดยจะรายงานตัวเลขแรกและตัวเลขสุดท้ายไปยังเครือข่ายหลัก ลดความแออัดและเพิ่มประสิทธิภาพได้
2. Blockchain rollup
Blockchain rollups (ทั้ง optimistic และ zk-rollups) จะเป็นการรวมธุรกรรมนอกเครือข่ายหลายตัวเข้าในข้อมูลชิ้นเดียว จากนั้นจึงเพิ่มเข้าไปในเชนหลัก ทำให้ความสามารถในการ scale ดีขึ้น และเพิ่มปริมาณธุรกรรมได้อย่างมาก
3. Sidechain
Sidechain คือบล็อกเชนอิสระที่มีกลไก consensus ของตัวเอง โดยจะเชื่อมต่อกับ Layer 1 ผ่าน bridge แบบสองทาง การเชื่อมต่อนี้ทำให้สามารถโอนย้ายสินทรัพย์ระหว่างเชนได้ รองรับ Layer 2 solution เพิ่มเติม และขยายความสามารถของเครือข่าย Bitcoin
ตัวอย่างของ Bitcoin Layer 2 Solution
มี Layer 2 solution มากมายเกิดขึ้นใน Bitcoin ecosystem และแต่ละตัวก็ช่วยในด้านการ scale และฟังก์ชันใหม่ๆ แตกต่างกันไป ดังนี้
1. Lightning Network
Lightning Network เปิดตัวในปี 2018 ใช้ state channel เพื่อเปิดใช้งานระบบ microtransaction บน Bitcoin Layer-1 ช่วยให้ทำธุรกรรมได้รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายน้อย โดยใช้วิธีทำธุรกรรมหลายตัวนอกเชน และส่งข้อมูลตัวเลขแรกและตัวเลขสุดท้ายไปยังบล็อกเชนหลัก
2. Rootstock (RSK)
Rootstock ผู้บุกเบิก smart contract บน Bitcoin blockchain ทำหน้าที่เหมือนเป็น sidechain ให้ผู้ใช้งานสามารถส่ง Bitcoin ไปยังเครือข่าย Rootstock ซึ่งจะถูกล็อกไว้ และกลายเป็น Rootstock Smart Bitcoin (RBTC) ในกระเป๋า RSK ของผู้ใช้ ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้เร็วกว่าและถูกกว่า
3. Stacks Protocol
บล็อกเชน Layer-2 นี้ (เดิมชื่อ Blockstack) เปิดใช้งาน smart contract และแอปพลิเคชันแบบ decentralized (dApp) บน Bitcoin blockchain โดยจะใช้ประโยชน์จาก microblock เพื่อความรวดเร็วและกลไก Proof-of-Transfer (PoX) ที่เชื่อมโยงธุรกรรมกับ Bitcoin blockchain
4. Liquid Network
Liquid Network เป็น Bitcoin Layer 2 sidechain ที่ช่วยให้ผู้ใช้ย้าย Bitcoin ไปมาได้โดยใช้กลไก two-way peg เมื่อ BTC ถูกโอนไปยัง Liquid Network ก็จะถูกแปลงเป็น Liquid BTC (L-BTC) ในอัตราส่วน 1:1 นอกจากนี้ยังรองรับการออก token และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ด้วย
Use Case อื่นๆ นอกเหนือจากการ scale ของ Bitcoin Layer 2
Bitcoin Layer 2 solution สามารถแก้ปัญหาอื่นๆ นอกเหนือจากการ scale ได้ โดยเปิดโอกาสให้ use case ใหม่และฟังก์ชันใหม่ๆ ใน Bitcoin ecosystem
1. เพิ่มความสามารถในด้าน Programmability: Layer 2 solution ทำให้สามารถใช้ฟังก์ชัน smart contract ที่ซับซ้อนบนเครือข่าย Bitcoin ได้ ทำให้สามารถพัฒนาบริการ DeFi, NFT และแอปพลิเคชัน Web3 อื่นๆ
2. Bitcoin DeFi: Layer 2 solution อย่าง Lightning Network และ Stack ช่วยให้ DeFi บน Bitcoin blockchain เติบโตเร็วขึ้น ทำให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการจัดการสินทรัพย์, atomic swaps, ยืม, ปล่อยกู้, และซื้อขาย
3. แก้ปัญหา blockchain trilemma: Bitcoin Layer 2 ช่วยให้สามารถทำลายขีดจำกัดของ blockchain trilemma โดยปกติบล็อกเชนจะมี 3 สิ่งที่คานอำนาจกันคือ decentralization, security และ scalability แต่สามารถทำให้สมบูรณ์แบบได้แค่ 2 สิ่ง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของบล็อกเชน แต่ Bitcoin Layer 2 จะทำให้สามารถสร้างสมดุลระหว่าง decentralization, security และ scalability ได้ โดยในขณะที่เครือข่าย Bitcoin ให้ความสำคัญกับ decentralization และ security แต่ Layer 2 solution จะแก้ปัญหาด้านการ scale
ความรุ่งโรจน์ของเครือข่าย Bitcoin Layer 2
ในช่วงหลังๆ มานี้ ความสำคัญของเครือข่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการพัฒนาสำคัญบ่งบอกถึงการนำไปใช้ในวงกว้าง ตัวอย่างเช่น Binance ประกาศเสร็จสิ้นการรวม Lightning Network เข้าในเครือข่ายในปี 2023 ทำให้ผู้ใช้ใช้ประโยชน์จาก layer-2 scaling solution สำหรับการฝากและถอน Bitcoin ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ Layer 2 solution ในคริปโต ecosystem ในวงกว้าง
ในอนาคต Bitcoin Layer 2 solution แสดงถึงศักยภาพที่มหาศาลขณะที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คริปโต community ได้เห็นการเติบโตและนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนใน Bitcoin ecosystem โดยเครือข่าย Layer 2 มีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้
บทส่งท้าย
เครือข่าย Bitcoin Layer 2 ช่วยในการแก้ปัญหาด้าน scale ของ Bitcoin ให้ solution ที่เพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม ลดค่าธรรมเนียม และปลดล็อกความสามารถใหม่ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการ program เปิดทางใหม่ๆ ในการให้บริการ DeFi, การจัดการสินทรัพย์ และอีกมากมายบน Bitcoin blockchain
.
ติดตามข้อมูลสาระน่ารู้เกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีได้ที่นี่ และดาวน์โหลด Binance TH by Gulf Binance ได้ที่ https://bit.ly/try-BinanceTH
คำเตือน : คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Reference: https://academy.binance.com/en/articles/what-are-bitcoin-layer-2-networks