7 ข้อผิดพลาดของนักลงทุนในการใช้ Technical Analysis

2024-06-12

7 ข้อผิดพลาดของนักลงทุนในการใช้ Technical Analysis

สำหรับนักลงทุนทุกคน น่าจะได้เห็นการวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ Technical Analysis (TA)ในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน ทั้งหุ้น, Forex หรือสกุลเงินดิจิทัล ดูเหมือนว่า TA จะมีอยู่ในทุกๆ ที่ 

แม้ว่าการทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของ Technical Analysis  จะดูเหมือนง่าย แต่การเรียนรู้ศิลปะแบบนี้ให้เชี่ยวชาญก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากกว่าที่คิดเหมือนกัน

บรรดามือใหม่ เราอาจจะพบกับอุปสรรคมากมาย ซึ่งในตลาดการเงิน เมื่อเราเกิดความผิดพลาด มันอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินที่หามาอย่างยากลำบาก ดังนั้น กุญแจสู่ความสำเร็จจึงไม่ใช่แค่การเรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา แต่ยังต้องหลบเลี่ยงมันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

วันนี้ เรามาดูกันว่า 7 ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการใช้ Technical Analysis มีอะไรบ้าง

  1. ไม่ยอมตัดขาดทุน (Not cutting your losses)

เกร็ดความรู้จากนักลงทุนชื่อดัง Ed Seykota เขาบอกไว้ว่า องค์ประกอบของการเทรดที่ดีคือ 1. ยอมตัดขาดทุน 2. ยอมตัดขาดทุน และ 3. ยอมตัดขาดทุน หากเราปฏิบัติตามกฏสามนี้ได้ เราก็จะมีโอกาส

นี้อาจดูเหมือนขั้นตอนง่ายๆ แต่จริงเป็นอะไรที่ส่งผลอย่างมาก เพราะการลงทุนเหมือนการออกเรือในสภาพอากาศที่มีพายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ สิ่งสำคัญอันดับแรกเลยคือเราต้องมุ่งเน้นการไม่แพ้ มากกว่าที่จะชนะ เราสามารถเริ่มต้นการลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยๆ หรือให้ดีกว่านั้นคือการใช้ Paper-Trading ฝึกฝนโดยไม่ต้องใช้เงินจริง เพื่อที่เราจะสามารถทดลองกลยุทธ์ในการลงทุนของเราโดยไม่ต้องเสียเงินจริง

รู้จักการยอมตัดขาดทุน (Cut-loss) ให้เป็นนิสัย ควรมีจุดที่เรายอมรับว่าการตัดสินใจของเราผิดและยอมเสมอ การลงทุนที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียว สามารถทำลายพอร์ตของเราได้เลย การยึดติดอยู่กับ Position ของเราและรอให้ตลาดกลับตัวอย่างสิ้นหวังเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างยิ่ง

  1. ลงทุนแบบเกินตัว (Overtrading)

หากเราทำการซื้อขายบ่อยๆ เราอาจตกหลุมพรางของการคิดว่า เราจำเป็นจะต้องอยู่กับการซื้อขายตลอดเวลา ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว การซื้อขายหรือการลงทุนจำเป็นจำต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์และการรออย่างมาก ซึ่งเราไม่จำเป็นจะต้องเทรดตลอดเวลาก็ได้

Jesse Livermore ผู้บุกเบิกการ Day-Trading เคยกล่าวไว้ว่า “เงินมาจากการรอ ไม่ใช่การเทรด” ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงและใช้ประโยชน์จากการซื้อขาย ในบางสภาวะตลาด การนั่งรอเฉยๆ เพื่อรักษาเงินทุน และรอให้โอกาสทองเข้ามา มันก็คงจะดีกว่า

  1. อยากเอาคืน (Revenge Trading)

ฉากทั่วไปในโลกของการลงทุนคือ เทรดเดอร์พยายามที่จะชดเชยเงินที่เสียไปในทันที ซึ่งเขาเรียกว่า Revenge Trading ไม่ว่าสไตล์การลงทุนของเราจะเป็นแบบไหน การตัดสินใจโดยใช้อารมณ์ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

การทำตัวให้สงบเมื่อน้ำนิ่งเป็นเรื่องง่าย แต่ความท้าทายที่แท้จริงคือการทำใจให้เย็นเมื่อเกิดพายุ เราสามารถทำตามแผนของเราท่ามกลางความโกลาหลได้ไหม ? นี้แหละคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับเทรดเดอร์ที่ดีที่สุด

การตัดสินใจแบบฉับพลันโดยใช้อารมณ์เพราะเกิดความสูญเสีย อาจนำไปสู่การสูญเสียที่มากขึ้น ดังนั้นเทรดเดอร์บางคนจึงเลือกที่จะหยุดพักหลังจากที่เทรดแพ้ เพื่อกลับมาให้ในภายหลังด้วยมุมมองที่ไม่เหมือนเดิม

  1. ดื้อรั้นต่อการเปลี่ยนแปลง (Stubbornness to Change)

หากเราใฝ่ฝันที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จงยอมรับการเปลี่ยนแปลง สภาวะตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และในฐานะนักลงทุน เราต้องมีความคล่องตัวและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ กลยุทธ์ที่ทำงานได้สมบูรณ์ราวกับเวทมนตร์ในวันนี้ อาจล้มเหลวไม่เป็นท่าในวันหน้า

Paul Tudor Jones เคยกล่าวไว้ว่า “ทุกวัน ผมจะคิดว่าการลงทุนของผมผิดพลาด” 

มันเป็นการฝึกจิตใจของเรา เพื่อให้รู้จักมองในด้านตรงข้ามกับความคิดของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้สามารถรู้ถึงจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้น ทำให้การตัดสินใจครอบคลุมมากขึ้น 

  1. ไม่คำนึงถึงสภาวะตลาด (Ignoring extreme market conditions)

Technical Analysis มีแนวโน้มที่จะสูญเสียความน่าเชื่อถือในสภาวะตลาดที่รุนแรง เช่น เหตุการณ์ Black Swan ที่ขับเคลื่อนตลาดด้วยอารมณ์และจิตวิทยามวลชน เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดอุปสงค์และอุปทานที่ไม่สมดุลอย่างมาก 

ลองดู Relative Strength Index (RSI) ซึ่งมักจะบ่งชี้ถึงสินทรัพย์ที่มีการขายมากเกินไปเมื่อค่าที่อ่านได้ลดลงต่ำกว่า 30 แต่อย่างไรก็ตาม นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าถึงเวลาที่จะต้องเข้าซื้อแล้ว 

การอ่านค่าจากเครื่องมือทางเทคนิคโดยไม่พิจารณาปัจจัยอื่นๆ อาจนำไปสู่การสูญเสียจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ ซึ่งไม่มีเครื่องมือใดสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของตลาดที่รุนแรงได้

  1. ลืมว่า TA คือเรื่องของความน่าจะเป็น (Forgetting that TA is a game of probabilities)

Technical Analysis ไม่ได้รับประกันความแน่นอนของผลลัพธ์ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความน่าจะเป็น เราอาจใช้ TA ที่บอกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด แต่มันก็ไม่แน่นอนเสมอไป 

พึงระลึกไว้เสมอสร้างกลยุทธ์ของตัวเอง และหลีกเลี่ยงการสันนิษฐานว่าตลาดจะเป็นไปตามที่เราคิด เพื่อหลีกเลี่ยงการ Overtrading และเสี่ยงต่อการขาดทุนจำนวนมาก

  1. ทำตามคนอื่นแบบไม่คิด (Blindly following other traders)

หากเราต้องการประสบความสำเร็จในการลงทุน การขัดเกลาทักษะของตัวเองอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็น ในขณะที่การเรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่ช่ำชองสามารถให้ความกระจ่างในเรื่องที่เราสับสนได้ แต่การค้นหาจุดแข็งที่ไม่เหมือนใครของตัวเราเอง และสร้างมันขึ้นมานั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน

แม้แต่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จก็มีกลยุทธ์ที่หลากหลายในการลงทุน วิธีที่ได้ผลสำหรับคนหนึ่ง อาจจะไม่ได้ผลสำหรับอีกคน การทำตามคนอื่นอาจจะดีในตอนแรก แต่สุดท้ายถ้าไม่เข้าใจแก่นแท้ของมัน ก็จะล้มเหลวในระยะยาว 

วันนี้เราได้เน้นข้อผิดพลาดพื้นฐานที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค โปรดจำไว้ว่าเส้นทางของการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมันเหมือนกับการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งเร็ว ด้วยเวลาและการฝึกฝน เราสามารถปรับแต่งกลยุทธ์ ระบุจุดแข็ง จุดอ่อนของการลงทุน และการตัดสินใจของเราได้

.

ติดตามข้อมูลสาระน่ารู้เกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีได้ที่นี่ และดาวน์โหลด Binance TH by Gulf Binance ได้ที่ https://bit.ly/try-BinanceTH


คำเตือน : คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้